หากคุณเคยได้ยินคำว่า Self Awareness แต่ไม่แน่ใจว่าคืออะไร หาคำตอบจากที่นี่ได้เลย พร้อมกับเช็คตัวเอง ว่าสัญญาณอะไรที่ส่อแววว่าจะเป็นตัวคุณเองบ้างไหม แล้วจะมีผลอย่างไร จำเป็นต้องแก้ไขหรือไม่ถ้าเรามี self awareness ต่ำ แล้วจะต้องแก้ไขอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ไปทำความรู้จักกับ Self Awareness กันเลย
![](https://thevennmedia.com/wp-content/uploads/2022/07/side-view-kids-learning-with-toys.jpg)
Self Awareness คืออะไร
Self Awareness คือ ทักษะที่เราสามารถรับรู้ความรู้สึกอารมณ์ ความคิด และสภาวะจิตใจของตนเอง รู้ว่าตนรู้สึกไม่ดีเพราะอะไร และสามารถรับมือกับความกังวลที่จะเกิดขึ้นได้ โดยผ่านการรับรู้และสามารถทำความเข้าใจสภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบกระบวนการความคิด หรือการรับรู้ทางร่างกาย หรือถ้าจะกระชับใจความ Self Awareness คือ การรู้จักตนเอง
![](https://thevennmedia.com/wp-content/uploads/2022/07/students-knowing-right-answer.jpg)
ทำไมคนเราควรมี Self Awareness
การรู้จักตนเอง คือ การรู้เท่าทันตนเองในทุกสภาวะ ตลอดจนถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่น อันเนื่องมาจากความรู้สึกอารมณ์และความต้องการเหล่านั้นของตน เข้าใจในด้านจุดแข็ง-จุดอ่อน จุดที่ควรพัฒนา สามารถรับมือและจัดการกับมันได้ เช่น รู้ว่าตนกำลังโกรธ รู้สาเหตุของการโกรธ ทำความเข้าใจกับอารมณ์โกรธ พิจารณาถึงผลกระทบกับตนเองและผู้อื่นจากความโกรธนั้น เมื่อรู้และเข้าใจถึงสภาวะทั้งหมด อารมณ์โกรธก็จะลดลงได้เร็วกว่าคนที่รู้ไม่เท่าทัน แล้วปล่อยให้อารมณ์มันไหลไปเรื่อย โกรธจนทะเลาะกัน หรือลงไม้ลงมือฆ่ากันก็มีอย่างที่เป็นข่าวมากมาย หรือเกิดความโลภอยากได้ เมื่อรู้เท่าทันว่าตนกำลังอยากได้ของคนอื่นที่ไม่ใช่ของๆตน และรู้ว่ามันไม่ดี ก็จะระงับความโลภความอยากได้นั้นลง แต่ถ้ารู้ไม่ทัน และปล่อยให้ความโลภครอบงำ ก็อาจจะลักขโมยของเขามาเพราะความอยากได้ในสิ่งนั้น นั่นเอง
Self Awareness เป็นทักษะที่จำเป็นมากในยุคปัจจุบัน เพราะการรู้จักตนเองในทุกสภาวะอารมณ์ รู้จักที่จะเห็นคุณค่าในข้อดีของตน รู้ในข้อเสียที่ควรปรับและพัฒนา ฝึกฝนในจุดอ่อนที่มีผลต่อเป้าหมาย หรือยอมรับแล้วให้คนอื่นทำในสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดแทน การมี Self Awareness เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่จะมีความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) และต่อยอดไปสู่การบริหารตนเอง (Self-management) ให้สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ เพื่อไม่ให้มันแย่หรือเลวร้ายไปกว่าเดิม โดยอาจทำให้อารมณ์ดีขึ้น หรือทำให้อารมณ์คงที่มากขึ้น
การตระหนักรู้ไม่ได้ส่งผลแต่ตนเอง แต่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ทั้งที่บ้าน ในครอบครัว ในที่ทำงาน และสังคม เพราะการที่เรารู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับตัวเอง ทำให้เราสามารถจับอารมณ์และความนึกคิดของตนเอง จนสามารถบริหารพฤติกรรมของตนเองได้ เช่น เมื่อต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยที่คุณเป็นผู้เขียนเนื้อหางาน แล้วคุณเว้นงานส่วนหนึ่งให้กับเพื่อนร่วมงานได้จัดทำ เพราะเชื่อมั่นว่าเขาจะพิจารณาจากหัวข้อเนื้อหาบทความ และสามารถเข้าใจพร้อมทั้งจัดการรูปแบบภาพประกอบได้ตรงกับเนื้อหางานนั้นๆได้
แต่เมื่อผลงานออกมากลับไม่ใช่อย่างที่คุณคิด และเมื่อต้องมีการแก้งาน หากคุณมีการบริหารในการตระหนักรู้มาก่อน แทนที่จะเอาแต่กล่าวโทษอีกฝ่าย นอกจากงานจะยืดเยื้อ อาจทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงาน แต่..เพียงแค่คุณเป็นฝ่ายยอมรับผิด และรีบกลับไปแก้ไขในส่วนที่คุณทำได้ พร้อมกับขอความร่วมมือจากอีกฝ่าย เพียงเท่านี้งานก็จะผ่านไปได้โดยที่ไม่ต้องเกิดความบาดหมางหรือเสียความรู้สึกต่อกัน ซึ่งมันย่อมดีกว่า คุณว่าจริงไหม?
![](https://thevennmedia.com/wp-content/uploads/2022/07/collaborative-process-multicultural-businesspeople-using-computer-presentation-communication-meeting-brainstorming-ideas-about-project-colleagues-working-plan-success-strategy-modern-office.jpg)
ประโยชน์ของ Self-Awareness
การที่เรามีทักษะในการรู้และเข้าใจในตนเอง จะช่วยให้เรารู้จักที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการคิด พฤติกรรม และการใช้ชีวิตของเราได้ โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่
1. รู้จักตัวเองว่ามีนิสัยอย่างไร
คุณจะรู้จักนิสัยของตัวเองได้จากการสังเกตถึงลักษณะที่แท้จริง ว่าเราเป็นคนอย่างไร ชอบอะไร จัดการกับความต้องการของตัวเองอย่างไร ซึ่งจะต้องใช้เวลาและการยอมรับ
2. รู้เป้าหมายในชีวิต
น้อยคนนักที่จะรู้และพบเป้าหมายของชีวิตในเพียงเวลาสั้นๆ เพราะส่วนใหญ่มักจะต้องมีการทดลอง การเรียนรู้ และพบกับความผิดพลาดหลายครั้งกว่าจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ตนต้องการจริงๆ หรือเป็นเป้าหมายที่แท้จริงสำหรับตน และก็มักจะไม่รู้ว่าความสุขของตนจริงๆนั้นคืออะไรกันแน่ การที่จะค้นพบเป้าหมายในชีวิตอาจต้องใช้เวลา ประสบการณ์ และความผิดพลาด เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ พิจารณา ไตร่ตรองว่าสิ่งที่ผ่านมา และสิ่งที่กำลังทำอยู่ มันใช่หรือไม่ใช่สิ่งที่ตนต้องการในเป้าหมายชีวิต มันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณให้คุณค่าหรือไม่
3. รู้จุดเด่น-จุดด้อยของตนเอง
ทำให้เรารู้จุดแข็ง-จุดอ่อน หรือข้อดี-ข้อเสียของตนเอง โดยการสอบถามความคิดเห็นจากผู้อื่น หรือจากการรับฟังเมื่อมีใครแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณ แล้วนำมาพิจารณา ประเมิน และปรับปรุงในจุดด้อยให้ดีขึ้น พัฒนาจุดเด่นที่มีอยู่แล้วให้แข็งแกร่ง หากเป็นเรื่องของการทำงาน จะพบว่าหลายๆองค์กรต้องการคนที่มี Self Awareness Skill เพราะเป็นบุคคลที่มีวุฒิภาวะสูง สามารถปรับปรุงและพัฒนาได้ทั้งในอารมณ์และพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลดีต่อการทำงานและองค์กร
4. รู้จักตัวเอง
การที่เรารู้จักตัวเองในทุกสภาวะ ทั้งด้านความคิด อารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรมของตนเอง จะทำให้มีความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligent) มีสติในการควบคุมตนเอง สามารถเรียนรู้และเข้าใจในผู้อื่นได้
![](https://thevennmedia.com/wp-content/uploads/2022/07/winning-success-asian-woman-happy-ecstatic-celebrating-being-winner-isolated-white-wall-waist-up.jpg)
วิธีการเพิ่ม Self-Awareness ให้กับตนเอง
- ฝึกเจริญสมาธิ (mindfulness) การฝึกสมาธิจะช่วยให้สติและเกิดปัญญาที่สามารถตระหนักรู้และเข้าใจในตนเอง โดยการรับรู้อย่างเป็นกลางในทุกมิติ ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับตนเองทั้งส่วนของร่างกายและส่วนของจิตใจ ทำให้สามารถรับมือและจัดการจนควบคุมได้ (อาจในระดับหนึ่งหรือทั้งหมด) เช่น เราอาจเคยแสดงความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่คิดว่าจะมีผลกระทบกับใครหรือไม่ เพราะข้ออ้างที่ว่าเป็นคนตรงๆ แต่เมื่อเรามีการฝึกฝนสติ ก็จะพัฒนาเพียงแค่อยากจะพูดอยากจะด่าหรืออยากจะแสดงออกไป แต่ก็พยายามปิดปาก ระงับสติอารมณ์ ควบคุมพฤติกรรม ไม่พ่นคำหรือโต้ตอบกลับไป เพราะที่สุดแล้วเราจะเข้าใจได้ว่า เราก็แค่ไม่พอใจ เราก็แค่โกรธ วางความรู้สึกนั้นไว้ข้างๆตัว (ปล่อยวาง) ไม่ต้องโยนไปหาอีกฝ่าย จะได้ไม่ต้องมีการสะท้อนกลับมา (การทะเลาะ)
- ทบทวนตนเอง (reflection) ด้วยการย้อนกลับไปมองในการกระทำของตนเอง แล้วประเมินและวิเคราะห์ว่าสิ่งที่ได้ทำไปในสถานการณ์นั้นๆ เราทำถูกต้องหรือผิดพลาด มีผลกระทบต่ออะไรและใคร หรือบรรลุเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งการสะท้อนสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้ตระหนักถึงปัญหา และสามารถมองเห็นวิธีแก้ไขที่อาจเคยมองข้ามไป หรือแนวทางใหม่ๆในการแก้ไขปัญหา
- จดบันทึก (Journal) ซึ่งไม่ใช่เป็นการบันทึกแบบจดไดอารี่ทั่วไป แต่เป็นการบันทึกเพื่อช่วยทบทวนและพัฒนาตนเอง โดยการบันทึกว่าในแต่ละวันได้ทำอะไรไปแล้วเกิดผลอย่างไร และสิ่งที่ทำอยู่ช่วยอะไรหรือมีผลอย่างไรต่อเป้าหมายเราได้บ้าง และจะได้มองเห็นว่าอะไรที่เป็นจุดด้อยที่ควรปรับหรือเปลี่ยน และพัฒนาให้ดีขึ้น
- สังเกตตนเอง ด้วยการฝีกฟังเสียงตนเองระหว่างที่เราพูดกับผู้อื่น จะช่วยให้เรารับรู้ความรู้สึกทางอารมณ์ของเราได้ดียิ่งขึ้น หรือใช้การสังเกตคำพูด น้ำเสียง และท่าทางของคู่สนทนา ที่อาจเป็นผลมาจากการแสดงออกของเราเช่นกัน เช่น หากคู่สนทนาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจใส่เรา ให้ย้อนกลับมาสำรวจตัวเองว่าเป็นเพราะเราพูดไม่ดี หรือพูดเสียงดังใส่เขาก่อหรือเปล่า เป็นต้น
- การรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น โดยจากการถาม feedback จากผู้อื่น อาจเริ่มจากการถามคนใกล้ชิด ที่เราสนิทและไว้ใจ เพื่อเปิดอกเปิดใจแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก จะได้รับรู้ในมุมมองของคนอื่นที่มีต่อตน เสมือนเป็นการมองกระจกเพื่อสะท้อนถึงข้อด้อยหรือจุดอ่อนของเราที่อาจไม่รู้ตัว เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาให้ดีขึ้น
![](https://thevennmedia.com/wp-content/uploads/2022/07/teacher-her-aspiring-pupils.jpg)
ซึ่งหัวใจสำคัญของการรู้จักตนเอง หรือ Self-Awareness คือ การรับรู้ในความเป็นตัวตนอย่างตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์กับความรู้สึก ความต้องการของตนเองที่แท้จริง ยอมรับในจุดแข็ง-จุดอ่อน ปรับเปลี่ยน ปรับปรุง และพัฒนา ทำให้เราเป็นบุคคลที่มีความเจริญในวุฒิภาวะ เป็นผู้มีปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์