198 West 21th Street, NY
ความรู้ สุขภาพ อาหาร

ประโยชน์ของโยเกิร์ต กินตอนไหนดีที่สุด และคนป่วยกินโยเกิร์ตได้ไหม 

สำหรับใครที่ชื่นชอบการทานโยเกิร์ต ย่อมรู้ถึงคุณประโยชน์ของโยเกิร์ตดีอย่างไรต่อสุขภาพ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ทานเป็นประจำ แต่ต้องการมองหาอาหารว่าง ของทานเล่น และดีต่อร่างกาย หรือต้องการควบคุมน้ำหนัก ลดความอ้วน แต่เลิกกินจุบจิบไม่ได้ ขอแนะนำให้เลือกทานโยเกิร์ต เพราะนอกจากจะมีรสชาติอร่อย ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเลยทีเดียว

โยเกิร์ต คือ อาหารสุขภาพที่ทำมาจากนม มีโปรไบโอติกที่ดีต่อสุขภาพลำไส้ มีหลากหลายรสชาติ ส่วนใหญ่ออกหวานหรือเปรี้ยว ความเป็นกรดของโยเกิร์ตมีประโยชน์ช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร และดูแลระดับเอนไซม์ในลำไส้ให้เป็นปกติ นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังมีโปรตีนและแคลเซียมจำเป็นต่อกระดูกและฟัน ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของกระเพาะอาหาร และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย 

โยเกิร์ตมีประโยชน์อย่างไร 

มีโปรไบโอติก หรือ โพรไบโอติก คือ แบคทีเรียดีที่เป็นมิตรกับลำไส้ของคนเรา ช่วยดูดซับและย่อยอาหาร ปรับสมดุลให้ลำไส้ ลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาทางเดินอาหาร นอกจากนี้ โยเกิร์ตเป็นแหล่งโภชนการ มีวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินบี โพแทสเซียม และ แมกนีเซียม ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน เพิ่มเติมจากอาหารหลัก 

ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น จุลินทรีย์ดีในโยเกิร์ตช่วยสลายแลคโตส จึงสามารถย่อยง่ายกว่านมวัว ดีต่อผู้ที่แพ้แลคโตส 

ลดความดันโลหิต โดยผลจากการศึกษาวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า การบริโภคโยเกิร์ตเป็นประจำ อาจส่งผลดีต่อความดันโลหิต เนื่องจากแคลเซียม แมกนีเซียม และ โพแทสเซียมในโยเกิร์ตนั่นเอง 

ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน เพราะโพรไบโอติกในโยเกิร์ตช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น ต่อสู้กับแบคทีเรียและไวรัส รวมไปถึงเชื้อโรคอื่น ๆ ลดโอกาสในการติดเชื้อและอาการเจ็บป่วย 

ควบคุมน้ำหนัก โปรตีนในโยเกิร์ตจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น ทำให้ลดการทานอาหารบ่อย ๆ การทานจุบจิบ หรือการทานอาหารว่างระหว่างมื้ออาหาร และช่วยเร่งการเผาผลาญ ส่งผลให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดี ส่งเสริมการลดน้ำหนักได้ผลมากขึ้น 

โยเกิร์ตดีกับผิว เพราะสารอาหารที่พบในโยเกิร์ตช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว มีความยืดหยุ่น ชะลอการเกิดริ้วรอยต่าง ๆ โดยการใช้โยเกิร์ตทาเฉพาะที่หรือการบริโภคเป็นประจำ

ส่งเสริมสุขภาพจิต เพราะโพรไบโอติกที่พบในโยเกิร์ตส่งผลเชิงบวกต่อการทำงานของสมองและอารมณ์ อีกทั้งระบบลำไส้มีความเชื่อมโยงกับจิตใจ เมื่อสุขภาพลำไส้ดี ก็ย่อมส่งผลต่อสุขภาพจิตดีตามไปด้วย แต่ถ้าลำไส้มีปัญหา พาลให้รู้สึกหงุดหงิด ไม่สบายตัว ไม่สบายใจไปด้วย การกินโยเกิร์ตจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้าและอาการวิตกกังวลได้ 

โยเกิร์ตควรกินตอนไหนดีที่สุด

กินโยเกิร์ตตอนเช้า 06.00 – 07.00 น.

โยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม มีโปรตีนมากกว่านมถึงร้อยละ 20 แล้วยังมีวิตามินและเกลือแร่อยู่หลายชนิดด้วยกัน ทั้งวิตามินบี วิตามินดี และแคลเซียม แถมยังมีโพรไบโอติกส์อยู่มาก จึงเหมาะที่จะทานเป็นอาหารเช้าในทุก ๆ วัน เพราะไขมันต่ำ แต่มีสารอาหารมากมายที่จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

กินโยเกิร์ตตอนกลางวัน 11.00 – 13.00 น.

เป็นช่วงของการปรับสมดุลระบบลำไส้ โดยการทานโยเกิร์ตในช่วงกลางวัน จะส่งผลให้จุลินทรีย์ช่วยปรับสมดุลในระบบลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานเบาลง

กินโยเกิร์ตตอนเย็น 18.00 – 19.00 น.

ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินโยเกิร์ตก่อนนอน 19.30 – 20.00 น.

ในโยเกิร์ตมีทริปโตเฟน กรดอะมิโนที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน และทริปโตเฟนยังจะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับง่ายกว่าเดิม

กินโยเกิร์ตตอนกลางคืน 21:00 – 23.00

กินโยเกิร์ตเป็นของว่างก่อนนอน ช่วยคลายหิวได้ดีสำหรับคนชอบกินมื้อดึก เพราะโยเกิร์ตมีโปรตีนที่ช่วยให้อิ่มอยู่ท้อง

คนป่วยกินโยเกิร์ตได้ไหม 

เมื่อเวลาที่เราป่วย ร่างกายของเราจะอ่อนแอกว่าปกติ จึงต้องการตัวช่วยทีดีเพื่อการฟื้นตัว โยเกิร์ต มีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ คือ โพรไบโอติก ที่เปรียบเสมือนฮีโร่ตัวเล็ก ๆ ต่อสุขภาพลำไส้ของคนเรา พวกมันส่งเสริมสมดุลของแบคทีเรียที่ดีในระบบย่อยอาหาร ซึ่งสามารถถูกขับออกมาเมื่อเวลาที่เราไม่สบาย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการท้องผูก ท้องเสีย ท้องร่วง หรือระบบลำไส้มีปัญหา เพราะโพรไบโอติกในโยเกิร์ตทำหน้าที่ฟื้นฟูความสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ ลดระยะเวลาการเจ็บป่วย ช่วยบรรเทาอาการป่วยให้หายไวขึ้น 

กรณีคนป่วยที่ทานอาหารลำบาก เจ็บคอ หรือมีอาการคลื่นไส้ สามารถเลือกทานโยเกิร์ต มีเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม และย่อยง่ายอีกด้วย 

อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องระมัดระวังการกินโยเกิร์ตหากคุณมีอาการป่วยบางอย่าง ตัวอย่างเช่น หากคุณมีอาการรุนแรง เช่น การอาเจียน หรือแพ้นมหรือแพ้นม โยเกิร์ตอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณในขณะนั้น ในกรณีเช่นนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำด้านอาหารที่เหมาะสม

การเลือกประเภทโยเกิร์ตที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เลือกใช้โยเกิร์ตธรรมดาหรือกรีกโดยไม่เติมน้ำตาลหรือแต่งกลิ่นสังเคราะห์ สารเติมแต่งเหล่านี้อาจไม่เหมาะกับร่างกายของคุณเมื่อคุณป่วยและอาจทำให้อาการของคุณแย่ลงได้

โดยสรุป โยเกิร์ตมีประโยชน์จริง ๆ ในระหว่างที่เจ็บป่วย เนื่องจากมีโปรไบโอติกที่ช่วยรักษาสุขภาพของลำไส้ ย่อยง่าย และมีสารอาหารที่ช่วยระบบภูมิคุ้มกันของคุณ อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของแต่ละคนต่อโยเกิร์ตอาจแตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฟังร่างกายของคุณและขอคำแนะนำจากผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ หากไม่แน่ใจว่าอาการป่วยของตนจะสามารถทานโยเกิร์ตได้หรือไม่ 

จำไว้ว่าการดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันเมื่อคุณป่วย แม้ว่าโยเกิร์ตจะเป็นประโยชน์ต่อการรับประทานอาหารของคุณ แต่ก็เป็นเพียงสิ่งที่มีส่วนในการช่วยบรรเทา แต่ไม่ได้หมายความว่า กินโยเกิร์ตอย่างเดียวแล้วหายเจ็บป่วย