198 West 21th Street, NY
สุขภาพ ไลฟ์สไตล์

4 สเต็ปกระตุ้นสติ เพื่อรับมือและจัดการกับอารมณ์ที่ผิดหวัง ให้มูฟออนได้เร็วขึ้น 

เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคนเราทุกคน ที่จะมีทั้งความสุข ความสนุก เมื่อสมหวังหรือพบเจอกับสิ่งที่ชอบใจและความเศร้า ความผิดหวัง เมื่อต้องสูญเสียอะไรไป หรืออยู่ในช่วงสถานการณ์เลวร้าย และการที่ไม่ได้ในสิ่งที่คาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความรัก การงาน ครอบครัว หรือความล้มเหลว ซึ่งอารมณ์ของเรานั้น สามารถส่งผลกระทบในด้านอื่นๆได้ เราจึงต้องรู้จักวิธีที่จะจัดการให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะอารมณ์ของความผิดหวัง ที่มักจะส่งผลกระทบในหลายๆด้าน โดยเฉพาะด้านสุขภาพจิต บทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับ ความผิดหวัง ให้มากขึ้น และรู้ถึงวิธีรับมือเพื่อจัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้น ให้สามารถก้าวข้ามและผ่านพ้นไปได้อย่างรวดเร็วกันดีกว่า 

ความผิดหวังเกิดจากอะไร 

การที่เราคาดหวังเกี่ยวกับอะไรสักอย่างว่ามันจะต้องออกมาในรูปแบบที่คิด แต่ผลลัพท์ที่ได้หรือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับตรงกันข้าม หรือผิดเพี้ยนไป และไม่ตรงกับที่คิดไว้ จึงทำให้มีความรู้สึกเป็นลบ เซ็ง เสียใจ โกรธ หงุดหงิด เบื่อหน่าย ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจาก “ความผิดหวัง” ซึ่งหากจะมองในรูปแบบของสมการจะได้ดังนี้ 

สิ่งที่คาดหวัง ➗ สิ่งที่เกิดขึ้นจริง   =  ความผิดหวัง

ยิ่งมีความคาดหวังมากเท่าไร ความผิดหวังก็จะยิ่งทวีคูณ ยิ่งความคาดหวังนั้นมีการต่อสู้ฟันฝ่า หรือความพยายามระหว่างทางเพื่อให้ได้ผลลัพท์ตามที่มุ่งหวังไว้ และเมื่อสิ่งที่ได้กลับมานั้นตรงกันข้าม หรือไม่เป็นไปตามปรารถนา ความผิดหวังยิ่งโหมกระหน่ำ และถาโถมความรู้สึกจนฉุดรั้งให้คน ๆ นั้นจมดิ่งสู่ห้วงอารมณ์ที่เป็นลบ จนยากที่จะปล่อยวางและก้าวข้ามไปได้ จนส่งผลกระทบต่อชีวิตในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงด้านจิตใจ และอาจสะสมจนกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ 

ความผิดหวังคือ negative ใช่ไหม

ความผิดหวังเป็นได้ทั้งในทางเชิงลบ และอาจจะไม่ใช่เสียทีเดียวก็ได้ หากรู้จักที่จะรับมือและจัดการมันได้ โดยไม่ให้เกิดผลกระทบในด้านอื่นๆ หรือส่งผลกระทบน้อยที่สุด และขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน เพราะความผิดหวัง อาจเป็นแรงผลักดันให้เราได้พยายามในครั้งต่อไปให้มากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นสัญญาณที่แสดงถึงความเติบโตและการพัฒนาตนเอง ที่เป็นได้ทั้งในด้าน IQ , EQ และ Mindset  

เทคนิคการรับมือและจัดการความรู้สึกผิดหวัง

1. ยอมรับความผิดหวัง 

ต้องทำความเข้าใจให้ได้ว่า ความผิดหวัง เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ตราบใดที่เรายังมีความคาดหวังและความรู้สึก ไม่มีใครที่ไม่เคยผิดหวัง ยอมรับให้ได้ว่าเราไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้ว่าจะทำได้ยากในตอนแรก แต่เมื่อเราพยายามที่จะทำทุกครั้งเมื่อต้องอยู่ในภาวะความผิดหวังหรือเศร้าเสียใจ ก็จะเริ่มทำใจยอมรับและโอบกอดความรู้สึกนั้นได้ง่ายและเร็วขึ้น ในเชิงจิตวิทยานั้น การทำควาเข้าใจกับความล้มเหลว คือ การตระหนักรู้ตัวเอง ว่าผลลัพท์จากความเจ็บปวดจะส่งผลกระทบต่อตนเอง และการกระทำที่เกิดจากความผิดหวังของคุณก็จะส่งผลต่อคนรอบข้างได้อีกด้วย 

2. ระบายและฟังมุมมองจากคนนอก

ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์รู้สึกแบบไหน เสียใจ เศร้า โกรธ เบื่อหน่าย การที่ได้ระบายออกไปบ้างดีกว่าการกดมันเอาไว้ เพราะจะเป็นการสะสมจนทำให้รู้สึกขุ่นมัว และส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจได้ “การเล่า” ให้กับคนใกล้ชิดฟัง อาจเป็นคนในครอบครัว เพื่อน แฟน เพราะการเล่านอกจะช่วยระบายความรู้สึกที่มีและปลดปล่อยมันออกไปแล้ว ยังจะได้มุมมองที่อาจแตกต่างหรือคำแนะนำดีๆสะท้อนกลับมา เพราะเราอาจมัวแต่โฟกัสเพียงแค่จุดเดียว มองจากจุดใกล้ๆในเลนส์แคบๆ แต่เมื่อได้ถ่ายทอดออกไป อาจได้ฟังมุมมองที่นึกไม่ถึงหรือมองข้ามไป ทำให้ได้มองอะไรที่กว้างขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การแก้ไขที่ดี 

3. วิเคราะห์และทบทวน

ความรู้สึกสดใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น อาจทำให้วิเคราะห์ยังไม่ทัน แต่เมื่อได้ระบายออกไปอาจทำให้คุณได้วิเคราะห์และทบทวนกับเหตุการณ์ไปในตัวระหว่างเล่าให้ใครสักคนฟังหรือเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง โดยสามารถที่จะแยกในส่วนที่เป็นอารมณ์กับส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงออกจากกันได้มากขึ้น และตอนนี้เองที่ควรจะมานั่งทบทวนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หาสาเหตุของความผิดหวังคืออะไร เป็นเรื่องใหม่หรือความผิดหวังเดิมๆ หากเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก จะต้องรับมือและจัดการอย่างไรเพื่อไม่ให้ความรู้สึกนี้กลับมาอีก และสามารถก้าวไปต่อได้อย่างรวดเร็ว 

อีกหนึ่งวิธีที่ดีต่อการปลดปล่อยคือ “การเขียน” ไม่ว่าจะเป็นการเขียนระบายหรือเขียนบันทึก จะช่วยให้ระบายความรู้สึกออกไป ได้ทบทวนตัวเองไปในตัว และเมื่อนำมาย้อนอ่านก็จะได้ทำความเข้าใจตัวเอง รู้จักตัวเองมากขึ้น และยังได้เป็นบทเรียนเพื่อนำไปพัฒนาในการรับมือ และสามารถจัดการกับปัญหาเดิมที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น

4. ฝึกฝนการยอมรับตัวตน 

การยอมรับตนเอง หมายถึง การยอมรับทั้งในข้อดีและข้อบกพร่องของตนเองอย่างซื่อตรง รู้ให้ทันกับสภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้น ฝึกฝน Self-Acceptance คือสิ่งที่จะช่วยตัวเราเองได้เป็นอย่างดี เมื่อเกิดความผิดพลาด จนเป็นที่มาของความผิดหวัง เสียใจ หรือโศกเศร้า ก็จะไม่เกิดความเปราะบางจนเอาแต่โทษตัวเองหรือผู้อื่น แต่สามารถมองและวิเคราะห์เหตุการณ์นั้นด้วยความเข้าใจ และมูฟออนต่อไปได้ 

ไม่เพียงแต่การยอมรับตัวตนของตัวเราเอง แต่ “การเห็นคุณค่าในตนเอง” ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ คอยให้กำลังใจตนเองอยู่เสมอ และอย่ามองข้ามความรักและสิ่งดีๆจากคนรอบข้าง เรียนรู้ขั้นตอนความรู้สึกของตนเอง วิเคราะห์และทบทวนด้วยเหตุและผลอย่างซื่อตรง เพื่อนำไปพัฒนาในการรับมือและจัดการกับความรู้สึกด้านลบได้รวดเร็วและดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไป  เพราะ “ความผิดหวัง” เป็นเรื่องธรรมดาที่สามาถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน เพียงแต่ใครจะปล่อยวางและก้าวไปต่อได้เร็วกว่าเท่านั้นเอง